วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555


การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์



1.ความหมายและพัฒนาการของการสื่อสารข้อมูล
        
          การสื่อสาร(Communication) หมายถึง การส่งข้อมูลจากฝ่ายหนึ่งส่วนข้อมูล(data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือสิ่งที่ถือว่าเป็นข้อเท็จจริงสำหรับใช้เป็นหลักการหาความจริง ซึ่งเป็นค่าเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ
         ดังนั้น การสื่อสารข้อมูลจึงหมายถึง กระุบวนการถ่ายโอน หรืแลกเปลี่ยข้อมูลในตัวเลขฐานสอง ที่เกิดจากอุปกรณ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครื่องขึ้นไปเป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล
         
2.เครือข่ายคอมพิวเตอร์
   เครือข่ายคอมพิวเตอร์(Computer network)เป็นการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเข้่าด้วยกัน เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลน่วมกันได้ เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบ่งออกตามสภาพการเชื่อมโยงได้เป็น4ชนิด ดังนี้




2.1 เครือข่ายส่วนบุคคล
        เครือข่ายส่วนบุคลหรืแพน(Personal Ares Network:PAN)เป็นเครือข่ายที่ใช้ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สายในระยะใกล้ เช่น การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับเครื่องพีดีเอ เป็นต้น





2.2 เครือข่ายเฉพาะที่
        เครือข่ายเฉพาะที่หรือแลน(Local Aree Network: LAN) เป็นเครือข่ายขนาดเล็กซึ่งเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสารที่อยู่ในท้องที่บริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน

       
 

2.3 เครือข่ายนครหลวง
        เครือข่ายนครหลวง หรือแมน(Metropolitrn Area Network:MAN) เป็นเครือข่ายการเชื่อมโยงแลนที่อยู่ห่างกัน

 

2.4 เครือข่ายวงกว้าง
        เครือข่ายวงกว้าง หรือแวน(Wide Area Network:WAN) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในระยะไกล




 
3.โพรโทคอลและอุปกรณ์สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

    3.1  โพรโทคอล
            โพรโทคอน(Protocol) คือ ข้อตกลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับวิธีที่คอมพิวเตอร์จะจัดรูปแบบและตอบรับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งโพรโทคอลจะมีหลายมาตรฐาน และในแต่ละโพรโทคอลจะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป   ซึ่งโพรโทคอลที่ีใช้ในการสื่อสารในปัจจุบันมีหลายประเภท เช่น

          - โพรโทคอลเอชทีทีพี(Hyper Text Protocol:HTTP) 
          
          - โพรโทคอลทีซีพี/ไอพี(Transfer Contrcol / lnternet Protocal:TCP/IP)
         
          -   โพรโทคอลเอสเอ็มทีพี(Simpel Mail Transfer Protocol:SMTP)
       
         -    บูลทูท(bluetooth) 
                                          
                                                   

     3.2 อุปกรณ์สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
            การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กลายเป็นระบบเครือข่ายได้นั้น จะต้องอาศัยอุปกรณ์สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์(Network device)  ซึ่งอุปกรณ์สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีดังนี้

-  เครื่องทวนสัญญาณ(repeater)
-  ฮับ(hub)
-  บริดจ์(bridge)
-  อุปกรณ์จัดเส้นทาง(router)
-  สวิตช์(switch)
-  เกตเวย์(gateway)
4.เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์
    
   เทคโนโลยีในการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สามารถแบ่งเป็น2ประเภท ได้แก่


 4.1  เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลแบบใช้สาย
        แบ่งได้3ชนิด ดังนี้


1 สายตีเกลียวคู่(twisted pair cable)
      ประกอบด้วยลวดทองแดงสองเส้นที่หุ้มฉนวนพลาสติก พันบิดกันเป็นเกลียว   สายตีเกลียวคู่มี2ชนิด ดังนี้
         1.1 สายตีเกลียวคู่แบบไม่ป้องกันศัญญาณรบกวนหรืชนิดไม่หุ้มฉนวน(Unshielded Twisted Pair:UTP)
            
 

1.2 สายตีเกลียวคู่แบบป้องกันสัญญาณรบกวนหรือหุ้มฉนวน(Shielded Twisted Pair:STP)

 

2. สายโคแอกซ์ (coaxial cable)
     
 ส่วนที่เป็นแกนของสายทำหน้าที่นำสัญญาณข้อมูล ชั้นใยข่ายจะเป็นชั้นที่ป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอกและเป็นสายดินไปในตัว ดังนั้น ทั้งสองส่วนนี้จึงไม่ควรเชื่อมต่อกัน เนื่องจากจะทำให้ไฟช็อตได้ 


 

3. สายใยแก้วนำแสง (fiber optic cable)





ในอาคารบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย สำนักงาน อาคารอุตสาหกรรมต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้สายสัญญาณเพื่อเชื่อมโยงระบบสื่อสาร แต่เดิมสายสัญญาณที่นำมาใช้ได้แก่สายตัวนำทองแดงปัจจุบันสายสัญญาณระบบสื่อสารมีความจำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และมีแนวโน้มที่จะรวมระบบสื่อสารอย่างอื่นประกอบเข้ามาในระบบด้วย เช่น ระบบเคเบิลทีวี ระบบโทรศัพท์ ระบบการบริการข้อมูลข่าวสารเฉพาะของบริษัทผู้ให้บริการต่าง ๆ ความจำเป็นในลักษณะนี้จึงมีผู้ตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะให้อาคารที่สร้างใหม่มีระบบเครือข่ายสายสัญญาณด้วยเส้นใยแก้วนำแสง


4.2  เทคโนโลย๊การรับส่งข้อมู,แบบไร้สาย 
          
         จะอาศัยคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสื่อกลางการนำสัญญาณ  แบ่งได้4ชนิด ดังนี้

1. อินฟาเรด(infarred)
2. คลื่นวิทยุ(radio ferquency)
3. ไมโคเวฟ(microwave)
4. ดาวเทียม(satellite)


5. ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์

 1. ความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูล
 2. ความถูกต้องของข้อมูล
 3. ความเร็วของการทำงาน
 4. ปีะหยัดต้นทุนในการสื่อสารข้อมูล
 5. สามารถเก็บข้อมูลเป็นศูนย์กลาง
 6. การใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกันได้
 7. การทำงานแบบกลุ่ม



                              
                                          ขอบคุณข้อมูลจาก :หนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

                                       : http://www.google.co.th/search?q=รูปการสื่อสารข้อมูล&hl=th&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=XAnfT_7NC9DqrQfm9cy1

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ยุค1G   ยุคที่ใช้สัญญาณวิทยุในการส่งคลื่นเสียง โดนไม่รองรับการส่งผ่านข้อมูลใดๆทั้งสิ้น สามารถใช้งานทางด้านเสียงได้อย่างเดียวคือสามารถโทรออก-รับสายเท่านั้น ถือเป็นยุคแรกของการพัฒนาระบบโทรศัพท์แบบเซลลูลาร์ โดยใช้วิธีการปรับสัญญาณแอนะล็อกเข้าช่องสื่อสาร ซึ่งแบ่งความถี่ออกเป็นช่องเล็กๆ ด้วยวิธีการนี้จึงมีข้อจำกัดในเรื่องจำนวนช่องสัญญาณและการใช้สัญญาณไม่เต็มประสิทธิภาพ เกิดการติดขัดเรื่องการขยายจำนวนเลขหมายและการขยายแถบความถี่ ซึ่งโทรศัพท์แบบเซลลูลาร์ยังมีขนาดใหญ่ และใช้กำลังไฟฟ้ามากอีกด้วย



                                             


 ยุค2G  เป็นยุคที่เปลี่ยนจากการส่งคลื่นทางวิทยุแบบแอนะล็อกมาเป็นการใช้สัญญาณดิจิทัล โดยส่งผ่านทางคลื่นไมโครเวฟ ทำให้ใช้งานด้านข้อมูลได้นอกเหนือจากเสียงอย่างเดียว โดยสามารถรับส่งข้อมูลต่างๆจนเกิดการกำหนดเส้นทางเชื่อมกับสถานีฐานหรือเรียกว่า เซลไซต์(cell site) และก่อให้เกิดระบบGSM(Global System for Mobile Communication) ซึ่งทำให้สามารถใช้โทรศัพท์เครื่องเดียวใช้ได้ทั่วโลก  


ยุค3G   ใช้บริการมัลติมีเดีย และส้งผ่านข้อมูลในระบบไร้สายความเร็วที่สูงขึ้นหรือเร็วกว่าเครือข่ายEDGEที่ใช้ในปัจจุบันเกือบ10เท่าสามารถใช้การสนทนาแบบเห็นหน้า(videotelephony)และประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ(video conference) ช่วยให้สื่อสารได้พร้อมทั้งภาพและเสียงและสามารถใช้บริการข้ามเครือข่าย(roaming)ได้เช่นเดียวกับระบบGSM


  

ยุค4G     เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional)  ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง  โดยมีบริการมัลติมีเดียในลักษณะที่โต้ตอบได้เช่น อินเตอร์เน็ตไร้สาย เป็นต้น




        


                                               ขอบคุณข้อมูลจาก -หนังสือเรียนเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 
                                                                               
                                                                                 -search?q=โฟน4s&hl=th&prmd=imvns&tbm=isch&tbo=u&source=univ&sa=X&ei=haXVT-GUHoOJrAfQzpH9Dw&ved=0CF4QsAQ&biw=1366&bih=631